ดีเอ็นเอในอักษรจีน มันมีที่มา คัดจีนไม่ยากอย่างที่คิด
อักษรจีนเป็นอักษรระบบอักษรภาพชนิดหนึ่ง ใช้แทนความหมายของคำ นักภาษาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า การเขียนในจีนที่เก่าสุดเริ่มเมื่อ 957 ปีก่อนพุทธศักราช ไม่มีหลักฐานแสดงความเกี่ยวข้องกับการเขียนในบริเวณอื่น ตัวอย่างการเขียนภาษาจีนที่เก่าสุดมีอายุราว 957 – 407 ปี ก่อนพุทธศักราช (ราชวงศ์ซ่ง) ซึ่งเป็นจารึกบนกระดูกวัวและกระดองเต่า
อักษรจีนอยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า ฮั่นจื้อ 漢字 [汉字] (hànzi). สัญลักษณ์ขีดแต่ละตัวแสดงคำในภาษาจีนและความหมาย มีจุดกำเนิดจากรูปคน สัตว์ หรือสิ่งอื่นๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป รูปร่างของอักษรมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างและไม่เหมือนกับสิ่งที่เลียนแบบอีกต่อไป สัญลักษณ์หลายตัวเกิดจากสัญลักษณ์ตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปมารวมกัน เพราะฉะนั้นตัวอักษรจีนเกิดจากการนำขีดมาผสมกันแล้วเกิดเป็นศัพท์ใหม่ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะจำตัวอักษรได้อย่างไร เพราะมีหลักมาแต่โบราณกาล เช่น
门 อ่านว่า เหมิน แปลว่า ประตู
们 อ่านว่า เมิน แปลว่า พวกเรา ซึ่งก็มาจากเสียงตัวเหมิน เมื่อเพิ่มขีดหน้าเข้าไปได้ความหมายใหม่ว่า พวกเรา ซึ่งขีดตัวหน้านั้นแสดงถึงคน ถ้าอักษรตัวไหนมีขีดนี้ข้างหน้ามักมีความหมายถึงคน
เช่น 你 หนี่ แปลว่า คุณ 他 ทา แปลว่า เขา
语 อ่านว่า หยู่ว แปลว่า ภาษา ขีดแรกข้างหน้าแสดงถึงการพูด 五 ตัวนี้คือ อู่ แปลว่า ห้า ข้างล่างเป็น 口 โข่ว แปลว่า ปาก
说 อ่านว่า ซัว ก็แปลว่า พูด
日 อ่านว่า ยรื่อ แปลว่า พระอาทิตย์
月 อ่านว่า เยว่ แปลว่า พระจันทร์
สองตัวรวมกันเป็น 明 หมิง แปลว่า สว่าง
木 อ่านว่า มู่ แปลว่า ไม้
เขียนสองตัวคู่กัน เป็น 林 หลิน แปลว่า ป่า
เหล่านี้เป็นต้น
ระบบอักษรจีนไม่มีข้อกำหนดเรื่องจำนวนอักษร พจนานุกรมที่ใหญ่ที่สุดชื่อ Zhonghua Zihai มีอักษร 85,568 ตัว [1] แต่ส่วนใหญ่มีที่ใช้น้อย การรู้อักษรจีนเพียง 3,000 ตัวจะสามารถอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาจีนได้ราว 99 % ในการอ่านวรรณคดี งานเขียนทางเทคนิคหรือหนังสือโบราณ ต้องรู้ประมาณ 6,000 ตัว
อักษรจีนประกอบด้วยขีดตั้งแต่ 1-64 ขีด ในพจนานุกรมจะเรียงอักษรตามหมวดนำและจำนวนขีด เมื่อเขียนอักษรจีน อักษรแต่ละตัวจะมีระยะห่างเท่าๆ กัน ไม่ขึ้นกับจำนวนขีดที่มีอยู่ อักษรที่รวมเป็นคำประสมจะไม่รวมกลุ่มเป็นอักษรเดียวกัน เพราะฉะนั้นในการอ่านภาษาจีน นอกจากต้องรู้ถึงความหมายและการออกเสียงของแต่ละคำแล้ว ยังต้องรู้ด้วยว่าอักษรใดรวมเป็นคำเดียวกัน
อักษรจีนราว 2,000 ตัวที่ใช้ในประเทศจีนและประเทศสิงคโปร์ได้เปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบที่เขียนง่ายขึ้น แต่ในไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊าและมาเลเซียยังใช้อักษรตัวเต็มอยู่ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม อักษรทั้ง 2 แบบก็ยังได้รับความนิยมจนปัจจุบัน
ก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนอักษรจีนเป็นตัวย่อ รัฐบาลจีนออกแถลงการณ์ให้เหตุผลว่า ต้องการให้ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับการใช้อักษรจีนมากขึ้น จึงต้องลดจำนวนขีดของตัวอักษรลงมาเพื่อลดระดับความยาก โดยย่อหมวดนำหรือตัดบางส่วนออก และย่อรูปรวม
|